ตามที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้มีปรกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เรื่อง การบริหารสัญญาจ้างของบุคลากรสายวิชาการ ระยะที่ ๔ พ.ศ.๒๕๕๘ (ตามอ้างถึง) เพื่อกระตุ้นให้บุคลากรสายวิชาการที่จะครบสัญญาจ้างระยะที่ ๓ ในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ มีตำแหน่งทางวิชาการเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ เพื่อต่อสัญญาจ้างระยะที่ ๔ ตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างบุคลากรประกอบกับข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ว่าด้วย การบริหารงานบุคคล พ.ศ.๒๕๕๒ นั้น โดยปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้บริหารจัดการเกี่ยวกับการบริหารสัญญาจ้างไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นในการใช้ข้อ ๖ แห่งประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เรื่อง การบริหารสัญญาจ้างของบุคลากรสายวิชาการ ระยะที่ ๔ พ.ศ.๒๕๕๘ อีกต่อไป
ในการนี้ ทางมหาวิทยาลัยสวนดุสิตจึงจัดทำประกาศมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เรื่อง การบริหารสัญญาจ้างของบุคลากรสายวิชาการ ระยะที่ ๔ พ.ศ.๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๐ (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย) ขึ้นมา เพื่อยกเลิกข้อ ๖ กรณีการขยายระยะเวลา ๑ ปีนับแต่วันที่ยื่นห้องกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ (ห้องเรวดี) โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๑ เป็นต้นไป ความว่า
“อาจารย์ที่ได้ยื่นขอกำหนดตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์แล้ว ต่อมาสัญญาจ้างระยะที่ ๓ สิ้นสุดในช่วงระยะเวลาอยู่ในกระบวนพิจารณาของผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยจะออกคำสั่งขยายระยะเวลาตามสัญญาจ้างนับตั้งแต่วันที่กองบริหารงานบุคคลได้ลงตราประทับการยื่นขอตำแหน่งไปอีก ๑ ปี หากครบ ๑ ปีแล้วยังไม่ได้มีการอนุมัติตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ให้ถือว่าสัญญาจ้างสิ้นสุดลงตามระยะเวลาที่มีการขยาย
หากได้รับตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ภายในกำหนด ให้มหาวิทยาลัยพิจารณาจากผลการประเมินปฏิบัติการ ประกอบการต่อสัญญาจ้างระยะที่ ๔ ต่อไป”
กล่าวคือ ผลของการแก้ไขประกาศฉบับนี้ เมื่อบุคลากรสายวิชาการที่ครบสัญญาจ้างระยะที่ ๓ และจะต่อสัญญาจ้างระยะที่ ๔ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป ต้องมีตำแหน่งทางวิชาการเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) เท่านั้น (ซึ่งการยื่นห้องกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ (ห้องเรวดี) ไม่สามารถขยายระยะเวลาออกไปอีก ๑ ปี ได้อีกต่อไป)
แต่กรณีลาศึกษาต่อเต็มเวลา มหาวิทยาลัยจะทำการขยายระยะเวลา ๒ ปีนับแต่วันที่รายงานตัวกลับเข้ามาปฏิบัติงาน และกรณีพ้นจากการเป็นผู้บริหาร มหาวิทยาลัยจะทำการขยายระยะเวลา ๒ ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งบริหาร ยังคงไว้ตามเดิม
เพื่อให้บุคลากรสายวิชาการมีความเข้าใจร่วมกัน ทางกองกฎหมายจึงขอให้คณบดีแจ้งไปยังบุคลากรสายวิชาการที่อยู่ในสังกัดของท่านไม่ว่าจะอยู่ในมหาวิทยาลัยหรือวิทยาเขตหรือศูนย์การศึกษานอกที่ตั้งต่างๆ เพื่อรับทราบโดยทั่วกัน |